- Amazon อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลกจะเปิดให้บริการ Amazon Go ร้านชำสะดวกซื้อในปี 2017 และเตรียมขยายสาขากว่า 2,000 แห่งทั่วอเมริกาในอีก 10 ปี
- จุดเด่นของ Amazon Go คือลูกค้าไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องพกเงินสด แค่เปิดแอปฯ หยิบสินค้า และเดินออกไปได้เลย ระบบจะตัดเงินจากบัญชีโดยอัตโนมัติ
- Amazon Go สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Deep-Learning, Computer Vision และ Sensor Fusion จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจค้าปลีกมากยิ่งขึ้น และเชื่อมต่อประสบการณ์ของผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ในเวลาเดียวกัน
หรือนี่คืออนาคตใหม่ของร้านชำ ธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า?
อันที่จริง หากย้อนกลับไปมองทิศทางการปรับตัวของภาคธุรกิจ จะเห็นได้ว่าร้านค้าและธุรกิจค้าปลีกเชนใหญ่ (Chain Store) ในสหรัฐฯ อาทิ J.C. Penney และ Nordstrom ปิดตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเฟื่องฟู ขณะที่ Walmart ทุ่มเงินซื้อสตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซเพื่อรุกคืบตลาดออนไลน์ ด้วยมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
แต่ Amazon กลับเดินหน้าบุกตลาดรีเทลเต็มที่ และจะประเดิมสาขาแรกที่ซีแอตเทิลในปี 2017 ทั้งยังตั้งเป้าว่าภายใน 10 ปี จะขยายสาขามากถึง 2,000 กว่าแห่งใน 35 รัฐทั่วประเทศ
แล้ว Amazon เห็นโอกาสอะไรแฝงอยู่ในช่องว่างเหล่านี้?
ทีมงานของ Amazon ได้ระบุไว้ในเว็บไซต์ว่า “เมื่อ 4 ปีก่อน เราถามตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากเราสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องจ่ายเงินที่แคชเชียร์ เราจะขยายขอบเขตของเทคโนโลยี Computer Vision และ Machine Learning ในการสร้างร้านที่ลูกค้าแค่เข้ามาหยิบของที่ต้องการแล้วออกไปเลยได้หรือเปล่า ซึ่ง Amazon Go และประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบ ‘Just Walk Out’ ก็ตอบโจทย์เหล่านั้น”
มองในอีกแง่หนึ่ง มันคือการเชื่อมโยงของตลาดออนไลน์กับออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง แต่ด้วยวิธีการและแนวคิดที่ ‘สดใหม่’ กว่า
ข่าวการเปิดตัว Amazon Go ครั้งนี้ อาจส่งสัญญาณว่ารูปแบบของธุรกิจค้าปลีกจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน และธุรกิจหมวดของชำและอาหารก็ยังเป็นที่ต้องการในกลุ่มผู้บริโภคอยู่ เพียงแต่ต้องจับทางให้ถูกว่าจะเข้าถึงลูกค้าหรือนำสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างไร จึงจะสะดวกที่สุดและเหมาะสมที่สุด
เป็นไปได้ว่าทางออกของการทำธุรกิจยุคดิจิทัลให้รอดไม่ใช่การปิดกิจการแบบ Physical Store หรือทำตลาดออนไลน์อย่างเดียว แต่คือการฉวยคว้า ‘ช่องว่าง’ ที่คนอื่นยังมองไม่เห็นและเปลี่ยนให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ โดยไม่ลืมค้นหาความต้องการของผู้บริโภคและทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่พร้อมจะเปลี่ยนไปทุกเมื่อ
ถ้าหากใครหาเจอ และเป็นฝ่ายลงมือเดินหมากก่อน ก็น่าจะอยู่ในเกมนี้ได้อีกนาน
อ้างอิง:
– https://www.amazon.com/b?ie=UTF8&node=16008589011
– http://www.businessinsider.com/amazon-big-expansion-retail-pop-up-stores-2016-9/#heres-what-the-pop-up-store-in-san-franciscos-westfield-mall-looks-like-1
– http://www.wsj.com/articles/amazon-grocery-store-concept-to-open-in-seattle-in-early-2017-1480959119?mod=e2fb
Tags: Amazon, Amazon Go, Deep-Learning, Computer Vision, Sensor Fusion