Thai Franchise & SME Expo (13th edition) @ไบเทคบางนา
Thai Franchise & SME Expo (13th edition) @ไบเทคบางนา งานแสดง Thai Franchise & SME Expo 2019 (ปีที่ 13) เป็นงานแสดงแฟรนไชส์และเอสเอ็มอี สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมองหาพันธมิตรและโอกาสทางการค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ พบธุรกิจแฟรนไชส์หลากหลายประเภท อาทิ แฟรนไชส์ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม งานพิมพ์ การศึกษา เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญความงามและอื่นๆ นอกจากเป็นเวทีที่รวมธุรกิจแฟรนไชส์หลากหลายประเภทแล้ว ภายในงานยังมีสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกินแฟรนไชส์ และ Workshop สอนอาชีพ เพื่อให้ผู้ที่เข้าชมงานสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้ งานแสดงแฟรนไชส์และเอสเอ็มอี จัดพร้อมงานแสดงกาแฟ เบเกอรี่ และไอศกรีม ปีที่ 13 วันที่: 28-31 มีนาคม 2562เวลา: 10.00 - 19.00 น.สถานที่: EH 106 BITEC, Bangkok รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thaifranchisesme.com/2019/ #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
21 ก.พ. 2562
โครงการ “SME D Digital Market Place” มุ่งพาผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ถนนดิจิทัล
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank หรือ ธพว.) เปิดเผยว่า SME D Bank ประสานความร่วมมือกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ “SME D Digital Market Place” มุ่งพาผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ถนนดิจิทัล เพื่อให้บริการด้านการตลาดและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้แก่ ผู้ประกอบการ SMEsไทย ต่อยอดโอกาสและช่องทางการกระจายสินค้าโดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อดิจิตัล พร้อมทั้งส่งเสริม ผลักดัน และยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไทยให้สามารถแข่งขันบนตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนผ่านแพลตฟอร์มสื่อโทรทัศน์ และ สื่อดิจิทัล โครงการ “SME D Digital Market Place” เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร สืบเนื่องจากการเล็งเห็นโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากสัดส่วนการตลาด TV Shopping ที่ขยายตัวสูงถึง 8,000 ล้านบาทตั้งแต่ช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา เกิดไอเดียส่งเสริมระบบ E-Commerce หรือดิจิทัลแพลตฟอร์ม ให้กลุ่มสตาร์ทอัพ และ SMEs ได้แจ้งเกิด โดยการนำ 50 ผู้ประกอบการดาวรุ่ง สินค้าที่มีความโดดเด่น เข้าดูแลส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจร ในรูปแบบของสปอตโทรทัศน์ และสกู๊ปพิเศษแนะนำสินค้า การประชาสัมพันธ์ผ่านSocial Media รวมไปถึงระบบการจัดการหลังบ้าน ให้แก่ธุรกิจในกลุ่ม SMEs โดยในเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการเป็นระยะเวลา 3 เดือนก่อน ภายใต้การดูแลของ SME D Bank และ บมจ.อสมท สนับสนุนการติดปีกก้าวสู่ตลาดดิจิทัลครบวงจร สามารถขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างผู้ประกอบการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต่อไป โดยกลุ่มธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการจะเป็น ลูกค้า และ ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพ ภายใต้การดูแลของ SME D Bank ที่มีความน่าสนใจ มีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในคลัสเตอร์ต่างๆ และเป็นการต่อยอดความร่วมมือ โครงการ SME D Scaleup Society เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพารา และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เป็นต้น โครงการ “SME D Digital Market Place” เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือของ 2 องค์กรจากภาครัฐ สะท้อนความสำเร็จในการร่วมมือขับเคลื่อนพัฒนาอุตสาหกรรมธุรกิจ SMEs อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภค ขยายช่องทางในการจัดจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และยกระดับเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล สามารถประกอบกิจการค้าขายพัฒนาสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติม: ฝ่ายส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการ โทร 02 265 -4494, 02 265 -3009, 02 265 -4579 : อ่านต่อได้ที่ https://www.smebank.co.th/en/news/detail/704 CR : www.smebank.co.th#ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
15 ก.พ. 2562
ASEANbeauty 2019 - เวทีสำคัญยกระดับผู้ประกอบการความงามไทยสู่ตลาดโลก
ASEANbeauty 2019 - เวทีสำคัญยกระดับผู้ประกอบการความงามไทยสู่ตลาดโลก ASEANbeauty 2019 - งานจัดแสดงสินค้าความงามและสุขภาพ เพื่อธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน พบผู้ซื้อ-ผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าชั้นนำจากทั้งไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมเวทีจับคู่เจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายภายในงานเชื่อมต่อกับเครือข่ายธุรกิจความงามและสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน พบผู้ซื้อ-นักธุรกิจคุณภาพกว่า 12,000 คน จาก 50 ประเทศ และผู้แสดงสินค้าความงามและสุขภาพกว่า 350 บูธ จาก 20 ประเทศทั่วโลกพบโอกาสใหม่ๆในการทำธุรกิจ และแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่ถูกรวบรวมมาจากทั้งภูมิภาคก่อนใคร พร้อมอัพเดตนวัตกรรมและสินค้าใหม่ล่าสุดจากทั่วทุกมุมโลกร่วมอัพเดตเทรนด์การตลาดใหม่ล่าสุด การสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยสัมมนาการตลาดและวิชาการจากผู้เขี่ยวชาญ พบผู้แสดงสินค้าความงามและสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 350 บูธ ผู้ซื้อคุณภาพจาก 50 ประเทศ ที่นำเสนอสินค้าและบริการใหม่ล่าสุดครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมโอกาสขยายเครือข่ายธุรกิจของคุณให้ก้าวไกลกว่าที่เคย กับการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ออกงาน และกิจกรรมอื่นๆมากมายตลอดงาน อาทิ การสัมมนาให้ความรู้ การสาธิตแสดงสินค้าบนเวที และสินค้านวัตกรรมล่าสุด เกี่ยวกับสุขภาพและความงามในโซน ASEANhealth and wellness ใน ASEANbeauty 2019 ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งที่ผ่านมา โดยใน ASEANbeauty 2018 นั้นมีผู้ประกอบการชั้นนำ เข้าร่วมออกงานกว่า 253 ราย โดย 36 % เป็นผู้แสดงสินค้าต่างประเทศ จาก 11 ประเทศทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน ฮังการี เบลเยี่ยม อินเดีย อเมริกา และ สิงคโปร์ ซึ่งในครั้งนี้ บริษัท ยูบีเอ็ม (เอเชีย) ประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน ต้องการตอกย้ำจุดยืนสำคัญของงาน ASEANbeauty ว่านี่คือเวทีสำคัญที่ต้องการจะยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ระดับโลก นอกจาก ASEANbeauty 2019 จะเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติแล้ว ผู้ประกอบการไทยก็ยังสามารถยกระดับความรู้ทั้งด้านวิชาการและ การตลาด เช่น การสร้างแบรนด์ สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ กฎระเบียบและขั้นตอนการส่งออกสินค้าด้านความงามและสุขภาพไปยังอาเซียน การทำการตลาดอออนไลน์ และการค้าปลีกสำหรับอุตสาหกรรมความงามผ่าน เวทีสัมมนาภายในงาน ทั้งนี้ยังมีในส่วนของเวทีการแสดงสาธิตสินค้าที่จะนำเสนอนวัตกรรมและสินค้าใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำอีกด้วย เรียกได้ว่ามางานเดียวครบครันทุกเรื่องความงามและสุขภาพ พบกับงาน ASEANbeauty 2019 ได้ใน วันที่ 2-4 พฤษภาคม 2562 ที่ ไบเทค บางน - http://www.thaifranchisecenter.com/event/show.php?etID=15862 #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
06 ก.พ. 2562
ฝึกอบรมบุกตลาดออนไลน์
ใช้ตลาดนำเพื่อกำชัยทางธุรกิจ เรื่องที่ยุคนี้คุณไม่ฟังไม่ได้แล้ว ด้วยการฝึกอบรมบุกตลาดออนไลน์ อบรมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณเป้นผู้ผลิตสินค้าด้านอาหารแปรรูปและเกษตรแปรรูป ขอเชิญร่วมฝึกอบรมระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคม 2562 ณ โรงแรมเบญจธารา บูติกเพลส รีสอร์ท จังหวัดลพบุรี สนใจสมัครอบรมรีบจองที่นั่งด่วนที่ 082-3971551 (ธวัชชัย) จัดโดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 จ.พิจิตร ด่วนครับ รับจำนวนจำกัดเพียง 30 คนเท่านั้น ย้ำ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถสมัครผ่านกรุ๊บไลน์ (ตามคิวอาร์โค้ตในใบสมัคร กรอกข้อมูลแล้วส่งมาในกรุ๊บไลน์ได้เลยครับ
17 ม.ค. 2562
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมือโตโยต้า ลงนาม MOU เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมือโตโยต้า ลงนาม MOU เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ กรุงเทพฯ 16 มกราคม 2562 – นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนในการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ภายใต้โครงการ big brother หรือ พี่ช่วยน้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ 9 มาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค 4.0 โดยมี นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สำหรับการลงนามฯดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นตรงกันถึงความสำคัญของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ที่เป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย กสอ. ได้มีแนวคิดในการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนผู้ประกอบการผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาลซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ของบริษัทฯ ที่มีดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งการลงนามฯภายใต้โครงการ Big Brother นี้ บริษัทฯมุ่งหวังนำระบบ “คาราคุริ” กลไกลอัจริยะที่ใช้เพิ่มผลิตภาพมาถ่ายทอดใน โครงการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) รวมถึง หลักการ “ไคเซ็น” ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารงานแบบญี่ปุ่น มายกระดับ โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพแก่ผู้ประกอบการทั้ง SMEs และ OTOP พร้อมกันนี้ทาง กสอ.และ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกันเปิด “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ภายในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (กล้วยน้ำไท) อย่างเป็นทางการ โดยจัดเป็นศูนย์ฯที่พร้อมให้ความช่วยเหลือด้วยการนำองค์ความรู้ในการทำธุรกิจที่ได้การยอมรับในระดับสากลรวมถึงกลไกลเทคโนโลยีที่นำมาถ่ายทอดเพื่อพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงการตลาดและการทำการค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
16 ม.ค. 2562
ประชาสัมพันธ์ โครงการเพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการ "โครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน"
"โครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน"จัดอบรมระหว่างวันที่ 11-15 กุมภาพันธ์ 2562สถานที่ โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร รับจำนวน จำกัด 20 ท่านเท่านั้น !!สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมน.ส. รัตนาวดี มณีกูล โทร. 082-7728292 (ID LINE : 50340470) #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
10 ม.ค. 2562
เชิญชวนผู้ประกอบการร่วมบริจาคสมทบ "กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัย สำนักนายกรัฐมนตรี" เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึก ผ่านรายการ "รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยภาคใต้"
เชิญชวนผู้ประกอบการร่วมบริจาคสมทบ"กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัย สำนักนายกรัฐมนตรี"เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึก ผ่านรายการ "รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยภาคใต้" ผู้บริจาคเงินสามารถนำหลักฐานในการบริจาคไปใช้แสดงการลดหย่อนภาษีได้ ร่วมบริจาคในรายการ "รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยภาคใต้"ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี "กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี" เลขื้บัญชี 067-0-06895-0#ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
07 ม.ค. 2562
กิจกรรมการอบรมสัมมนา เจาะตลาดโลกด้วยเครื่องมือออนไลน์ หลักสูตร "เจาะตลาดโลกด้วยเครื่องมือออนไลน์ ฉบับนักบงการมืออาชีพ"
???? ข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการ จังหวัดชัยนาทจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3กิจกรรมการอบรมสัมมนา เจาะตลาดโลกด้วยเครื่องมือออนไลน์ หลักสูตร "เจาะตลาดโลกด้วยเครื่องมือออนไลน์ ฉบับนักบงการมืออาชีพ" ** นักบงการ คือผู้ที่ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากผู้ช่วยที่อยู่รอบตัวคุณให้เจ๋งที่สุด ???? 25-27 ธันวาคม 2561 ???? โรงแรมชัยนาทธานี จังหวัดชัยนาท คุณสมบัติง่ายๆของผู้ที่จะสมัคร1.แค่มีใบทะเบียนพาณิชย์2.แค่เป็นผู้ประกอบการในกลุ่มของเกษตรแปรรูปแค่ 2 อย่างเท่านั้น พอ.... สมัครเข้าอบรมฟรี...++ที่นั่งจำกัด 30 ที่เท่านั้นสอบถามรายละเอียด หรือ ชิงลงทะเบียนก่อนผู้อื่นโทร 0972494250 (เอกนัย) ชาวชัยนาทรีบสมัครนะครับ ก่อนที่จังหวัดอื่นๆจะมาแย่งชิงโอกาสของคุณ #ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
30 พ.ย. 2561
กิจกรรมแนะนำหลักสูตร Change โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม คพอ. รุ่นที่ 349 จ.กำแพงเพชร
กิจกรรมแนะนำหลักสูตร Change โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม คพอ. รุ่นที่ 349 จ.กำแพงเพชร พบกับ1.การอธิบายถึงหลักสูตร change ที่มีการพัฒนาจากหลักสูตร mini mba ของประเทศมาเลเซีย ที่จริงๆแล้วเหมาะกับผู้ประกอบการไทยที่มีแนวคิดในการพัฒนารูปแบบใหม่เป็นอย่างมาก2. Special Talk จาก อาจารย์ผู้สอนและรุ่นพี่ คพอ. ที่จะมาบอกทุกท่านว่าทุกท่านถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนตัวเองได้แล้ว 18 ธันวาคมนี้ สถานที่โรงแรมชากังราว จังหวัดกำแพงเพชรเวลา 13.00 - 16.30 น.กิจกรรมฟรีสมัครเข้าร่วมกิจกรรม (กรอกใบสมัครและส่งกลับมาทางไลน์นี้) หรือ โทร 0972494250. เพื่อสำรองที่นั่งด่วน !!! เพราะตอนนี้ใกล้เต็มแล้ว15 ที่นั่งสุดท้าย** พิจิตร , นครสวรรค์ , ชัยนาท , อุทัยธานี สามารถสมัครได้นะครับ
27 พ.ย. 2561
" จีนขน 200 บริษัท เจาะไทย-อาเซียน!! " 2018 ASEAN (BANGKOK) CHINA IMPORT & EXPORT COMMODITIES FAIR (ACIEC2018)
" จีนขน 200 บริษัท เจาะไทย-อาเซียน!! "2018 ASEAN (BANGKOK) CHINA IMPORT & EXPORT COMMODITIES FAIR (ACIEC2018) 16-18 พฤศจิกายน 2561@ อิมแพค เมืองทองธานี จีนเปิดเกมรุก! ขน 200 บริษัทชั้นนำ จาก 10 มณฑล จัดงานแฟร์ใหญ่ เล็งหาคู่ธุรกิจเปิดตลาดระบายสินค้าในไทยและอาเซียน ลดผลกระทบสงครามการค้า ขณะเชิญ 130 ประเทศ จัดงานที่เซี่ยงไฮ้ ระบุเป็นครั้งแรกจีนจะเป็นผู้ซื้ออย่างเดียว เป้าลดนำเข้าจากสหรัฐฯ พาณิชย์ส่งสัญญาณ 3 สินค้าจีน-สหรัฐฯ ทะลักไทยพุ่ง สงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกากดปุ่มขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไป 3 รอบแล้ว รวมกว่า 6,800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้สินค้าจีนต้องเร่งหาที่ระบายทดแทนการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ หนึ่งในตลาดหลักที่จีนมอง คือ อาเซียน ซึ่งรวมทั้งไทย จัดทัพ 200 บริษัท ลุยไทยนายอู๋ จื้อ อี้ นายกสมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียนสากล เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. นี้ ทางสมาคมจะจัดงานมหกรรมแสดงสินค้ามาตรฐานไทยและจีนส่งออก (ACIEC 2018) ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยการจัดครั้งนี้ได้นำผู้ประกอบการจาก 10 มณฑลของจีน รวมประมาณ 200 บริษัท มาจัดแสดงสินค้า เป้าหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ การจัดบิสิเนสแมตชิ่ง เพื่อหาคู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายเพื่อเปิดตลาดการค้าในไทยและอาเซียนให้มากขึ้น สินค้าที่จะนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ยาจีนและยาสมุนไพรจีน เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกาย อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร อุปกรณ์ทางการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อะไหล่เครื่องยนต์และจักรยานยนต์ สิ่งทอ และอาหารแปรรูป เป็นต้น "200 บริษัทจีน ที่จะมาจากเมืองหลานโจว มณฑลกานซู่มากที่สุดกว่า 30 บริษัท นอกจากนี้จะมีบริษัทไทยมาร่วมออกงาน 40-50 บูธ และจากลาวอีกประมาณ 10 บูธ เป้าหมายผู้ชมงานที่เป็นนักธุรกิจและประชาชนทั่วไปเข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย" แหล่งข่าวจากหอการค้าไทย มองว่า การจัดงานครั้งนี้เป้าหมายหลัก นอกจากเพื่อเปิดตลาดการค้าสินค้าจีนในไทยและอาเซียนให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ส่วนหนึ่งเพื่อระบายสินค้าจีนที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้าจีนของสหรัฐฯ ทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้นและขายได้ลดลง นายอู๋ จื้อ อี้ เผยอีกว่า จากผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ล่าสุด ทางการจีนได้สั่งให้มีการจัดงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศที่เซี่ยงไฮ้ ชื่องาน China International Import Expo ตัวย่อ CIIE ระหว่างวันที่ 5-10 พ.ย. 2561 การจัดงานครั้งนี้มีความพิเศษ คือ ได้เชิญผู้ประกอบการจาก 130 ประเทศทั่วโลก ทั้งจากอาเซียน ซึ่งรวมทั้งไทย ญี่ปุ่น ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง รวมถึงสหรัฐฯ และอื่น ๆ มาจัดแสดงสินค้า โดยที่ไม่มีภาคธุรกิจของจีนร่วมแสดงสินค้า แต่ภาคธุรกิจของจีนจะเป็นผู้ซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว "จีนต้องการซื้อสินค้าจากประเทศอื่น เพื่อทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ที่ถูกขึ้นภาษีมากขึ้น จากปัจจุบัน คู่ค้า 4 อันดับแรกของจีน ได้แก่ ยุโรป สหรัฐฯ อาเซียน และญี่ปุ่น" เป้าตลาดจีน-สหรัฐฯ ปี 62 ยังบวกนางสาวจีรนันท์ หิรัญญสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือ ทูตพาณิชย์ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ด้านบวกส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรของไทยที่ส่งออกไปจีนและสหรัฐฯ เพื่อทดแทนสินค้าของอีกฝ่ายได้เพิ่มขึ้น ส่วนด้านการลงทุน มองว่าทั้งจีนและสหรัฐฯ จะมีการย้ายหรือขยายฐานการผลิตมายังประเทศในเอเชียมากขึ้น โดยไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือก ส่วนด้านลบ กลุ่มสินค้าที่ไทยเป็นซัพพลายเชนให้กับจีน เพื่อผลิตและส่งออกต่อไปสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ "ภาพรวมการส่งออกไทยไปจีนช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวที่ 6.2% ทั้งปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าน่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนปี 2562 เบื้องต้น ได้ตั้งส่งออกไปตลาดจีนจะขยายตัวได้ที่ 12% มูลค่า 3.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแผนงานกิจกรรมที่จะดำเนินการ คือ การเจาะตลาดสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ รุกสู่เมืองรองและรุกค้าออนไลน์ให้มากขึ้น" นายนพดล ทองมี ผู้อำนวยการ สคต. ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เผยว่า ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ ยอดส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ขยายตัว 5.4% ส่วนเป้าทั้งปีอยู่ที่ 6% คาดจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนเป้าตลาดสหรัฐฯ ปี 2562 ต้องรอเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะมาให้นโยบายในวันที่ 18 ต.ค. นี้ก่อน แต่เบื้องต้น คาดจะขยายตัวในอัตราใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 5-6% อย่างไรก็ดี ในปีหน้าสิ่งที่ต้องระวัง คือ สหรัฐฯ กำลังมอง 10 ประเทศแรก ที่ได้ดุลการค้าสหรัฐฯ แม้ไทยจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจถูกใช้มาตรการเพื่อลดการขาดดุลการค้า โดยสินค้าที่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ ยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อุตสาหกรรมหนัก เป็นต้น ด้าน นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลกระทบทางอ้อมจากสงครามการค้า มีสัญญาณของการระบายสินค้าที่ถูกใช้มาตรการมายังไทย ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วเหลือไทยมีการนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่ม 50% จากจีนเพิ่ม 4%, เครื่องสำอางจากจีนเพิ่มขึ้น 50% จากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 18% และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากจีนเพิ่มขึ้น 125% และจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% เป็นต้น CR : ฐานเศรษฐกิจ#ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3
08 พ.ย. 2561