โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
การประชุมคณะทำงานเครือข่าย RISMEP จังหวัดพิจิตร ครั้งที่ 2/2561 เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนและพัฒนาเครือข่ายร่วมกัน ในการให้บริการผู้ประกอบการ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
วันอังคารที่ 30 มกราคม 2561 นายดุสิต จันทรการต์ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรเป็นประธานในการประชุมคณะทำงานเครือข่าย RISMEP จังหวัดพิจิตร ครั้งที่ 2/2561 เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนและพัฒนาเครือข่ายร่วมกัน ในการให้บริการผู้ประกอบการ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยมีหน่วยงานเครือข่ายผู้ให้บริการ (BDSP) เข้าร่วมจำนวน 11 หน่วยงาน ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร
30 ม.ค. 2561
เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 นำคณะผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 19 คน ที่ผ่านการอบรม หลักสูตร พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ เข้าศึกษาดูงาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชากาขาว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และ กลุ่
วันอังคารที่ 30 มกราคม 2561 นางสาวรัตนาวดี มณีกูล นางสาวจันทร์ธิมา วรรณลึก และนายทักษิน ยังเพ็ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 นำคณะผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 19 คน ที่ผ่านการอบรม หลักสูตร พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ เข้าศึกษาดูงาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชากาขาว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และ กลุ่มพัฒนาอาชีพสตรีบ้านต้นโจ๊ก อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการเรียนรู้ประสบการณ์จริงในการดำเนินธุรกิจ และมีการนำแผนธุรกิจ (BMC) มาประยุกต์ใช้ในกิจการของตนเอง
30 ม.ค. 2561
การเปิดกิจกรรมพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม กลุ่มข้าวอินทรีย์จังหวัดพิจิตร(ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2)
วันอังคารที่ 30 มกราคม 2561 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมและให้เกียติกล่าวรายงานการเปิดกิจกรรมพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม กลุ่มข้าวอินทรีย์จังหวัดพิจิตร(ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2) โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธาน ภายในกิจกรรมมีหน่วยงานราชการ สมาชิกคลัสเตอร์ข้าวฅนอินทรีย์ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวของในอุตสาหกรรมข้าวอินทรีย์ทั้งตั้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จากจังหวัดพิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท และกำแพงเพชร จำนวนกว่า 100 คน ณ CK Convention Hall ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า จังหวัดพิจิตร
30 ม.ค. 2561
อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (MEDICAL HUB)
อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (MEDICAL HUB) อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เป็นการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ต่อยอดจากธุรกิจการรักษาพยาบาล และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทยมีฐานเดิมที่แข็งแรง โดยเพิ่มธุรกิจด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์จากพื้นฐานด้านอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม โดยอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว คือร้อยละ 3.2 และอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์จากพื้นฐานด้านการเกษตรและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรของไทยจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือการให้บริการสมัยใหม่ การวิจัยและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวิจัยยา-ผลิตเวชภัณฑ์ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การให้บริการด้านการแพทย์ผ่านอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน โดยการใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อและระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คำปรึกษาทางการแพทย์และให้บริการรักษาทางไกลกับผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกแทนการเสียค่ารักษาพยาบาลราคาสูง หรือเพื่อให้บริการผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล การพัฒนาระบบดังกล่าวสามารถทำได้โดยสถานพยาบาล หรือผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและติดตามผลระยะไกล ซึ่งมีรากฐานมาจากการพัฒนาของเครื่องรับรู้ และอุปกรณ์การวัดสมัยใหม่ โดยอุปกรณ์วินิจฉัยและติดตามผลระยะไกลสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคสามกลุ่มคือ 1) กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ 2) ผู้สูงอายุ และ 3) ผู้ที่ต้องการวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น วัดความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ เป็นต้นส่งเสริมการวิจัยยาและการผลิตยาที่ทันสมัย เป็นที่ต้องการของประเทศในเอเชียโดยเน้นการลดกระบวนการและลดระยะเวลาการทดลองยาสมัยใหม่ ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและประหยัดเวลาในการทดสอบ เพื่อดึงดูดให้มีการทดสอบและผลิตยาในประเทศไทยเพื่อเอเชียในอนาคต ส่งเสริมการวิจัยและผลิตชีวเวชภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นที่การผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง ซึ่งคือยาสามัญของยาชีววัตถุต้นแบบ ที่มีการวิจัยและจดสิทธิบัตรแต่สิทธิบัตรหมดอายุลงแล้ว ในปัจจุบันยาชีววัตถุเป็นแนวโน้มในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีขนาดใหญ่กว่ายาสามัญทั่วไปและ จะมียาชีววัตถุต้นแบบกว่า 10 ชนิดที่สิทธิบัตรจะหมดอายุลงตัวอย่างของยาชีววัตถุเช่น วัคซีน อินซูลิน ยาโรคข้ออักเสบ เป็นต้น Cr: หนังสือ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
29 ม.ค. 2561
ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 เข้าร่วมการประชุมกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนมกราคม 2561 ครั้งที่ 1/2561
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2561 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงสี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนมกราคม 2561 ครั้งที่ 1/2561 โดยมี นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 เข้าร่วมฯ ในการนี้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ได้เสนอเรื่องเข้าในระเบียบวาระการประชุม ระเบียบวาระที่ 4 เรื่อง การประชาสัมพันธ์ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม (BSC) ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ประจำเดือนมกราคม 2561 ณ ห้องประชุมหลวงพ่อเพชร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร
29 ม.ค. 2561
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ประชุมตรวจงานจ้างที่ปรึกษางวดที่ 1 กิจกรรมพัฒนา SMEs เพื่อเพิ่มผลิตภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพและยกระดับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเป้าหมาย
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2561 นายสิทธิรงณ์ เร่งเงียบ นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการพิเศษ, นายศิริเทพ พิริยอุตสาหกร นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ, นายกนก หมอกมืด นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ, นางสาวสุชาดา พูลเสน นักวิชาการอุตสาหกรรมปฏิบัติการ และนายภานุวัฒน์ เพชรอยู่ นักวิชาการอุตสาหกรรม คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ประชุมตรวจงานจ้างที่ปรึกษางวดที่ 1 กิจกรรมพัฒนา SMEs เพื่อเพิ่มผลิตภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพและยกระดับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ปรึกษา จากคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศภ. 3 กสอ.
29 ม.ค. 2561
ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3 เป็นประธานการประชุมคณะทำงานพิจารณาเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่4/2561
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2561 น.ส.นิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่3 เป็นประธานการประชุมคณะทำงานพิจารณาเงินทุนหมุนเวียนฯ ครั้งที่4/2561 พร้อมด้วยคณะทำงานและเจ้าหน้าที่เงินทุนหมุนเวียนฯ เพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานเงินทุนฯและพิจารณาให้การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการจังหวัดพิจิตร 1 ราย วงเงิน 200,000 บาท
29 ม.ค. 2561
เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 นำคณะผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 19 คน ที่ผ่านการอบรม หลักสูตร พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ เข้าศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการสมุนไพรพญาไพร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2561 นางสาวรัตนาวดี มณีกูล นางสาวจันทร์ธิมา วรรณลึก และนายทักษิน ยังเพ็ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 นำคณะผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 19 คน ที่ผ่านการอบรม หลักสูตร พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ เข้าศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการสมุนไพรพญาไพร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์จริงในการดำเนินธุรกิจ และมีการนำแผนธุรกิจ (BMC) มาประยุกต์ใช้ในกิจการของตนเอง
29 ม.ค. 2561
กสอ.​ ชู​ 3 P พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมดึง​ OTOP​ ทดสอบตลาดในงาน “มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน”
กสอ. ชู 3 P พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมดึง OTOP ทดสอบตลาดในงาน “มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน” กรุงเทพฯ 29 มกราคม 2561- นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อหนุนผู้ประกอบการชุมชนตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างตรงจุดยึดหลัก“การตลาดนำการผลิต” หวังต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของตลาด สร้างอำนาจต่อรอง และเพิ่มศักยภาพผ่านโมเดลการพัฒนา 3 P คือ 1.People หรือ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยเป็นการให้คำแนะนำสำหรับการเป็นผู้ประกอบการอย่างมืออาชีพ 2.Process หรือ การพัฒนาศักยภาพในการผลิต โดยมีการแนะนำให้ความรู้สำหรับการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green OTOP) รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ และ 3.Product หรือ การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ โดยให้คำแนะนำส่งเสริมการผลิตและการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เข้าสู่มาตรฐานสากล และให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ กรมฯได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและผ่านกระบวนการพัฒนาในหลากหลายโครงการร่วมออกบูธกว่า 80 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2561 ณ บริเวณห้องนิทรรศการ ชั้น 1 อาคาร กสอ. ถ.พระรามที่ 6 ราชเทวี ### PR.DIP (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สล.กสอ.) : รายงาน/ภาพข่าว รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.dip.go.th/…/…/PRDIP%202018/press%20no.014%20.pdf
29 ม.ค. 2561
อุตสาหกรรมดิจิทัล (DIGITAL)
อุตสาหกรรมดิจิทัล (DIGITAL) ดิจิทัล ถือเป็นแนวโน้มสำคัญของโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาคการผลิตและผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพิจารณาผลกระทบและศักยภาพของประเทศไทยแล้ว จะสามารถแบ่งอุตสาหกรรมย่อยได้เป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่มาจากความต้องการด้านดิจิทัลของฐานธุรกิจ และกลุ่มที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมใหม่เพื่อการส่งออกได้ดังนี้กลุ่มที่ 1.อุตสาหกรรมดิจิทัลที่เกิดจากความต้องการของรัฐบาล ธุรกิจ และผู้บริโภค เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ แบ่งย่อยได้เป็น 5 ประเภทธุรกิจ คือธุรกิจพัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์ ทั้ง Embedded Software, Enterprise Software และ Digital Content และสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่นิคม Software Parkธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการยกระดับภาคการค้าปลีกของไทยสู่การใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับผู้บริโภคในประเทศ และดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติให้เข้ามาลงทุนจัดตั้งศูนย์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค เพื่อให้บริการการวิเคราะห์ข้อมูลเจาะลึกของตลาด แก่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่นิคม Data Centerบริการเกี่ยวกับหน่วยจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลออนไลน์ และการป้องกันอันตรายในโลกออนไลน์ เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ มีความคล่องตัวและเติบโตได้ด้วยการใช้ระบบดิจิทัลพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มที่ 2.อุตสาหกรรมดิจิทัลที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมใหม่ได้ คืออุตสาหกรรมสื่อสร้างสรรค์และแอนิเมชั่น โดยต่อยอดจากศักยภาพด้านการออกแบบ เพื่อยกระดับสู่การเป็นเจ้าของเนื้อหาและร่วมลงทุนกับบริษัทสตูดิโอแอนิเมชั่นระดับโลกศูนย์นวัตกรรม วิจัย และออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์อนาคตโดยพัฒนาศักยภาพเพื่อโอกาสในการจำหน่ายนวัตกรรมสู่ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง Cr: หนังสือ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
28 ม.ค. 2561