โทรศัพท์ 1358
การค้นหาขั้นสูง

หมวดหมู่
การอบรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การบริหารจัดการและการให้คำปรึกษาแนะนำ ผู้ประกอบการ (GMCE-General Management Consultancy and Extension)
วันที่ 20-24 สิงหาคม 2561 นาย ศาษวัต สุขอยู่ (นักวิชาการอุตสาหกรรมปฏิบัติการ) นางสาวสรญา บุญนำมา (นักวิชาการอุตสาหกรรม) นายเอกนัย ตุ้มแก้ว (นักวิชาการอุตสาหกรรม) เข้าร่วมการอบรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การบริหารจัดการและการให้คำปรึกษาแนะนำ ผู้ประกอบการ (GMCE-General Management Consultancy and Extension) จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ โรงแรมรอยัลปริ้นเซส หลานหลวง กรุงเทพมหานคร
20 ส.ค 2561
การบรรยายการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ณ ศาลาประชาคมบ้านสะนำ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
วันที่ 17 สิงหาคม 2561 นายธวัชชัย กานต์ธัญลักษณ์ นักวิชาการอุตสาหกรม เป็นวิทยากรบรรยายการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ณ ศาลาประชาคมบ้านสะนำ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
17 ส.ค 2561
กิจกรรมโครงการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างพิจิตรเมืองยิ้ม"
วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2561 นางสาวรัตนาวดี มณีกุล นักวิชาการอุตสาหกรรม และนางสาวกิตติยารัฐ เอกมาตย์ เจ้าหน้าที่พัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างพิจิตรเมืองยิ้ม" เพื่อประชาสัมพันธ์หน่วยงาน กิจกรรมโครงการต่างๆ ของศูนย์ฯ ณ วัดทุ่งโพธิ์ ต.ทุ่งโพธิ์ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร โดยมี นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธาน
16 ส.ค 2561
กิจกรรมทดสอบตลาดสำหรับผู้ประกอบการในกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรรมเกษตรแปรรูป
วันที่ 15 สิงหาคม 2561 นางเฉลา ศรีเพ็ชร์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสิทธิรงณ์ เร่งเงียบ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 เข้าร่วมงานและเยี่ยมชมกิจกรรมทดสอบตลาดสำหรับผู้ประกอบการในกิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรรมเกษตรแปรรูป ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยใช้เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพและยกระดับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประจำปีงบประมาณ 2561 ณ ลานหน้าท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขาพิษณุโลก ซึ่งเป็นโครงการของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 จัดจ้างให้สถานบ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นที่ปรึกษา โดยภายในงานจัดให้มีการแสดง ทดสอบ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมตามโครงการฯกับผู้ใช้จริง ทั้ง10 กิจการ และยังมีการแสดงพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาจากสถานบ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวรที่น่าสนใจอีกกว่า 10 กิจการ พร้อมทั้งมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อวิทยุและโซเชียลมีเดียของทางมหาวิทยาลัยนเรศวร
15 ส.ค 2561
FHT Food & Hotel Thailand 2018
โอกาสทางธุรกิจด้านอาหารและบริการงานแสดงสินค้าที่รวบรวมผู้จัดแสดงสินค้ามากกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศ และบูธประจำชาติอีกกว่า 6 ประเทศ และท่านยังมีโอกาสได้เกาะติดเทรนด์ล่าสุดในธุรกิจอาหารและการโรงแรม รวมถึงพัฒนาทักษะทางด้านต่างๆ ผ่านการสัมมนาและกิจกรรมต่างๆ มากมาย ที่จัดขึ้นภายในงาน 5-8 กันยายน 2561เวลา 10.00 - 18.00 น.@ ไบเทคบางนา ลงทะเบียนเข้าร่วมงานhttps://www.foodhotelthailand.com/…/2018/th/visit_regist.asp
15 ส.ค 2561
เมื่อแบงก์กลายเป็น Data Company เขาใช้ข้อมูลลูกค้าทำอะไรได้บ้าง ?
เมื่อแบงก์กลายเป็น Data Company เขาใช้ข้อมูลลูกค้าทำอะไรได้บ้าง ? ในยุคดิจิทัล ไม่ว่าอะไรก็กลายเป็น Data (ข้อมูล) ได้ และกลายเป็นจุดวัดใจที่ใครมีมากกว่าวิเคราะห์ และปรับใช้กับลูกค้าได้มากกว่า คนนั้นก็ชนะไป แล้วธนาคารที่เรียกว่าเป็นตัวกลางที่เราไว้ใจทำธุรกรรมการเงินด้วย เขาสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ทำอะไรได้บ้าง ฐานข้อมูลของธนาคารใหญ่แค่ไหน ? ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้บริหารสายงานดิจิทัล แบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ บอกว่า ในโลกธุรกิจ ภาคการเงินถือว่ามีถังข้อมูลขนาดใหญ่มาก เพราะจากประชากรไทยทั้งหมดกว่า 67 ล้านคน แต่ในภาพรวมไทยเรามีบัญชีธนาคารกว่า 81 ล้านบัญชี มีจำนวนบัตรเดบิต (ส่วนใหญ่ไว้กดเงินแทนเอทีเอ็ม) 51 ล้านใบ และมีจำนวนบัตรเครดิต 21 ล้านใบ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่ละอย่างทั้งบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต ฯลฯ เมื่อลูกค้าทำธุรกรรมการเงินผ่านผลิตภัณฑ์ตัวไหน ก็ทำให้เกิดข้อมูลใหม่ๆ ขึ้น และธนาคารจะมาจัดหมวดเป็นข้อมูลชุดต่างๆ เช่น พฤติกรรมการใช้จ่าย พฤติกรรมการออม การเลือกใช้โปรโมชั่น ช่วงเวลาที่ทำธุรกรรม ฯลฯ “แม้ว่าจำนวนบัญชีจะมากกว่าจำนวนประชากรไทยไปสักหน่อย แต่ผมมองว่ามีคนไทยเข้าถึงบริการธนาคารเพียง 75% ของประชากรไทยทั้งหมด เลยยังมีช่องว่างให้เราต้องเข้าไปตอบสนองความต้องการ และทำให้คนที่ยังเข้าไม่ถึง เข้าถึงเรื่องการเงินให้ได้” ธนาคารใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ทำอะไรได้บ้าง ? เมื่อธนาคารกลายเป็น Data company หัวใจหลักคือการเก็บข้อมูลที่อยู่นอกระบบ ใส่เข้ามาในระบบ เพื่อวิเคราะห์ หาสิ่งที่จะตรงใจ ตรงเวลา และตรงความต้องการของลูกค้า “ทุกวันนี้ธนาคารทั้งหลายมีข้อมูลอยู่เยอะมาก แต่ใช้น้อยมาก เพราะเรายังทำเรื่อง Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ได้ไม่ครบ โดยยังขาดข้อมูลที่เรียกว่า UnInfrastructure เลยต้องค่อยๆ เพิ่มข้อมูลกลุ่มนี้เข้ามาในระบบ เช่น เสียงของลูกค้าเพื่อใช้ในการระบุตัวตน การปรับข้อความที่อยู่ในระบบอื่นๆ อย่างลูกค้าแชทถามผ่านโซเชียลมีเดีย ก็ต้องแปลงข้อมูลพวกนี้เข้ามาวิเคราะห์ในระบบได้ ก็จะต้องทำเรื่อง API (Application Programing interface) เพื่อเชื่อมระหว่างระบบ ฯลฯ ” นอกจากนี้ Data ยังต่อยอดให้เป็น Commercialize ได้ด้วย แต่เราต้องทำอีกเยอะในเรื่องการแบ่งส่วนข้อมูล ว่า ข้อมูลอะไรที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และข้อมูลที่ต้องอยู่ในระบบปิด ซึ่งต้องดูทั้งเรื่องกฎหมาย และเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) “ในต่างประเทศ ธนาคารใหญ่ๆ ทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ พอเขามีข้อมูลเยอะ เขาก็มีการแชร์ มีการขายออกมา เช่น เรื่องพฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้คนที่ต้องการเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น หรือมีการแชร์ Bonus Point ต่างๆ เช่น ลูกค้าใช้อยู่หลายธนาคาร แต่ละที่ก็มีคะแนนที่ได้จากธุรกรรมเก็บไว้ แบงก์ก็เปิดโอกาสให้เอาคะแนนของหลายๆ มาเทรวมกันได้ อันนี้ที่ไทยก็มีคนทำ ซึ่งเกิดขึ้นจากความต้องการของลูกค้า” การเปิดเผย และความปลอดภัยข้อมูลลูกค้า แต่สุดท้ายแล้ว การเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า ยังมีข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ตัวลูกค้าอยู่แล้ว โดยธนาคารทุกที่ก็พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำระบบรักษาความปลอดภัย ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลเฉพาะที่กฏหมายกำหนดให้ทำได้เท่านั้น สรุป เมื่อธนาคารกลายเป็นถังข้อมูลขนาดใหญ่ เขาต้องปรับตัวใช้ทั้งข้อมูลพฤติกรรมลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อสร้างของใหม่ๆ หรือทำของที่มีอยู่ให้ดีขึ้น แต่หลายคนยังกังวลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับของแต่ละประเทศว่ามีพาวเวอร์แค่ไหน ที่มา : brandinside.asia
13 ส.ค 2561
Trade war : จีนสู้กลับ เพิ่มกำแพงภาษีสินค้า US 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่เหล้าถึงซิป
Trade war : จีนสู้กลับ เพิ่มกำแพงภาษีสินค้า US 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่เหล้าถึงซิป หลังจาก Donald Trump ประธานาธิบดี ฝั่งสหรัฐ มีแผนชัดเจนที่จะเก็บภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 25% จากเดิมอยู่ที่ 10% ภายในสัปดาห์นี้ ทำให้พี่จีนก็เตรียมโต้กลับด้วยมาตรการเก็บภาษีจากสินค้าของสหรัฐเหมือนกัน จีนเตรียมเก็บภาษีเพิ่มจากสินค้าสหรัฐกว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การที่ Trump เพิ่มเพดานภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีน ถือว่าสร้างความกดดันต่อการค้าโลกมาก เพราะละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization-WTO) และกระทบต่อการส่งออกของจีน ทำให้ล่าสุดจีนเลยตั้งกำแพงภาษีโต้กลับ เริ่มที่ 5% สูงสุด 25% สินค้าสหรัฐประมาณ 650 รายการ จะเก็บภาษีที่ 5% เช่น อะไหล่แทร็คเตอร์, เครื่องวัดความเร็ว, ฟอร์มาลีน ฯลฯ สินค้าสหรัฐเกือบ 1,000 รายการ จะเก็บภาษีที่ 10% เช่น กระดาษทราย, เนยถั่ว, optical cables ฯลฯ สินค้าสหรัฐ 1,078 รายการ จะเก็บภาษีที่ 20% เช่น กระติกน้ำเก็บความร้อน, หมากฝรั่ง, แปรงสีฟัน ฯลฯ สินค้าสหรัฐเกือบ 2,500 รายการ จะเก็บภาษีที่ 25% เช่น cocoa butter, tequila, ซิป, ไวน์, เครื่องหนัง, ผงซักฟอก, ถุงกระดาษ ฯลฯ สหรัฐ – จีน สวนหมัดต่อหมัดตั้งกำแพงภาษีใส่กัน ในปักกิ่งมีความเห็นกันว่า คณะรัฐบาลของ Trump มุ่งที่จะทำนโยบายเพื่อคนรวย ต่างจากคณะรัฐบาลจีนไม่ต้องกังวลว่าภาษีจะส่งผลกระทบต่อคะแนนประชานิยมเหมือน Trump เพราะจีนไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้ Xi Jinping ประธานาธิบดีจีน สามารถเลือกอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาษีของสหรัฐ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเงินสนับสนุนทางการเมืองจากอุตสาหกรรมไหน ขณะเดียวกันทางสหรัฐ มองว่าการขึ้นภาษีของจีนถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ กลุ่มบริษัทด้านการเกษตรของสหรัฐ ที่ต้องการรักษาข้อตกลง NAFTA (The North American Free Trade Agreement) และลดอัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาบอกว่า การประกาศเพิ่มภาษีของจีนไม่ได้เซอร์ไพรส์ มันก็เหมือนเดจาวูที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะทุกครั้งเมื่อเราจะตั้งกำแพงภาษี จีนก็ไม่เคยพลาดที่จะตั้งกำแพงภาษีโต้กลับเหมือนกัน ฝั่งสหรัฐฯ ย้ำเศรษฐกิจจีน-ค่าเงินหยวนอ่อนแอเอง ? ฝั่งทำเนียมขาวยังไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงเรื่องกำแพงภาษีแต่อย่างใด ซึ่ง Larry Kudlow chief economic adviser ทำเนียบขาว บอกว่า เราพูดหลายครั้งว่าไม่มีภาษี ไม่มีการตั้งกำแพงภาษี ไม่มีเรื่องเงินอุดหนุน เราอยากเห็นการปฏิรูปการค้าเกิดขึ้น ซึ่งจีนไม่ได้สนับสนุนให้เกิดขึ้น “เศรษฐกิจของเขาอ่อนเอง ค่าเงินหยวนเขาก็อ่อนแอ ประชาชนกำลังไหลออกจากประเทศเขา ส่วนตอนนี้พูดได้เลยว่าอย่าประมาทความตั้งใจของประธานาธิบดี Trump ที่จะทำให้แผนต่างๆ สำเร็จ” สรุป จีนตั้งกำแพงภาษีสู้สหรัฐฯ วางแผนเก็บภาษีจากสินค้าสหรัฐ 5-25% รวมมูลค่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าหากทั้งสหรัฐฯ และจีนยังตอบโต้ภาษีระหว่างกัน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะเดียวกันหลายคนมองว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่เอาจริงเพราะ Trump พูดเรื่องภาษีเพื่อดึงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง Mid-term ช่วงปลายปี แต่ก็ต้องจับตากันต่อไป CR : BRANDINSIDE.ASIA
05 ส.ค 2561
TAIWAN EXPO 2018
⭐ ไต้หวันประเทศมาแรงแซงทางโค้งที่น่าจับตามอง ไต้หวันจะจัดงาน Taiwan Expo 2018 ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. - 1 ก.ย. 2561 ณ Bangkok International Trade and Exhibition Centre (BITEC), Event Hall 99 เป็นการจัดงานใหญ่ของไต้หวันครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้นโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southbound) เพื่อหวังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างไทย-ไต้หวัน ในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้นระหว่างการจัดงาน Taiwan Expo 2018 นี้ จะมีการแสดงทางวัฒนธรรมและการจับคู่ธุรกิจ ซึ่งทางผู้จัดคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 3 วัน ประมาณ 30,000 -40,000 ราย ???? ระยะเวลาการจัดงาน วันที่ 30 ส.ค. - 1 ก.ย. 2561⏰ เวลาจัดงาน : 10:00 -18:00 น.???? สถานที่จัดงาน : Bangkok International Trade and Exhibition Centre (BITEC), Event Hall 99 ราคาค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านการสมัครทางเว็บไซต์ (Free entry for trade with online registration (coming soon) or on-site questionnaire) ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : https://thai.taiwanexpoasean.com/ หรือ เว็บไซต์ : www.thailandexhibition.com/TradeShow-2018/14337 ผู้จัดงานและติดต่อประสานงาน Taiwan External Trade Development Council (TAITRA) 333 Keelung Rd., Sec. 1, Taipei 11012, TaiwanTel: 886-2-2725-5200 #1529Mr. Wesley LinFax: 886-2-2757-6443E-mail: THAI@taitra.org.tw
31 ก.ค. 2561
ราคาคือหัวใจหลัก เจาะลึกการตลาด IKEA ในอินเดีย ต้องทำให้คนเชื่อว่าของถูกจริงๆ
ราคาคือหัวใจหลัก เจาะลึกการตลาด IKEA ในอินเดีย ต้องทำให้คนเชื่อว่าของถูกจริงๆ IKEA เข้าไปทำตลาดในอินเดียเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ IKEA ได้เข้าไปศึกษามาหลายปีในอินเดีย ทำให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในอินเดียอย่างลึกซึ้ง ลองดูได้จากการทำโฆษณาชิ้นแรกที่ส่งออกมา รู้หรือไม่ว่า ก่อนหน้าที่ IKEA จะเข้าไปเปิดสาขาแรกในไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 19 กรกฏาคมที่ผ่านมา IKEA ทำวิจัยเจาะลึกตลาดผู้บริโภคอินเดียกว่า 3 ปี เข้าไปทำการศึกษาคนอินเดียในบ้านต่างๆ กว่า 1,000 ครัวเรือน IKEA เริ่มต้นด้วยการทำการตลาดแบบ 360 องศาผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ ทั้งสื่อทีวี สื่อนอกบ้าน ออนไลน์ และการทำแคมเปญอีเว้นท์ โดยปล่อยออกมาสู่สาธารณะตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม (2 สัปดาห์ก่อนที่จะเปิดสาขาอย่างเป็นทางการ) ตัวโฆษณาเน้นไปที่การทำให้คนอินเดียรู้จักแบรนด์ IKEA เป็นหลัก และทำให้เห็นว่าเป็นทุกอย่างในบ้านได้ ตั้งแต่อำนวยความสะดวกในการทำอาหาร การพักผ่อน ไปจนถึงการจัดงานเลี้ยง ทุกอย่างจบและครบได้ด้วย IKEA การเข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของคนอินเดีย จึงทำให้โฆษณาของ IKEA ตอบโจทย์ปัญหาของคนอินเดียได้ดี โดยเฉพาะเรื่องของการจัดการพื้นที่ในบ้านและการทำให้บ้านสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบมากขึ้น การเข้าถึงตลาดท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ โดย IKEA พบหัวใจของเรื่องราวทั้งหมดอีกอย่างหนึ่งของตลาดอินเดียคือเรื่องของ “ราคา” Ulf Smedberg ผู้จัดการการตลาดของ IKEA ในอินเดียบอกว่า นอกจากที่จะทำให้คนอินเดียรู้จักแบรนด์ของเราแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการทำให้คนอินเดียรู้สึกว่าสามารถเป็นเจ้าของสินค้าของ IKEA ได้ “ผู้คนจะไม่เชื่อว่าสินค้าของเขามีราคาถูก ถ้าเราไม่บอกเขา” IKEA อินเดียจะมีสินค้ากว่า 1,000 ชิ้นที่ขายในราคาต่ำกว่า 200 รูปี (96 บาท) “สำหรับคนอินเดียแล้ว ถ้าไม่รู้สึกว่าของมีราคาถูก พวกเขาก็จะไม่ซื้อสินค้านั้นๆ”
31 ก.ค. 2561
กิจกรรม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ร่วมกิจกรรม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 ได้แก่ พิธีทำบุญตักบาตร พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี พีธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เป็นประธานในพิธี ณ หอประชุมอำเภอวชิรบารมี จ.พิจิตร
28 ก.ค. 2561